แนะนำภาษาท่า
ภาษาท่า จากที่ได้ให้ความหมายของคำว่า “ภาษาท่า” ไว้ในตอนต้นของบทนี้แล้วนั้น ถ้าจะกล่าวโดยสรุป ภาษาท่าที่ใช้ในการรำไทย
หรือนาฏศิลป์ไทยมี 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 เป็นภาษาท่าที่มาจากธรรมชาติ แต่มีการปรับปรุงท่าทางให้ดูสวยงาม อ่อนช้อยยิ่งขึ้น เช่น ท่าเรียก ปฏิเสธ ยิ้ม ร้องไห้ สนุกสนาน
รัก โกรธ เป็นต้น
แบบที่ 2 เป็นภาษาท่า ที่มาจากการประดิษฐ์ขึ้นโดยตรง เพื่อให้มีเพียงพอใช้กับคำร้อง หรือคำบรรยายที่จะแสดงออกมาเป็นท่ารำ เช่น คำว่า
สวยหรืองาม จะใช้ท่าประดิษฐ์จากการรำแม่บทใหญ่ คือ ใช้ท่าเฉิดฉิน การแสดงความยิ่งใหญ่ใช้ท่านภาพรหรือท่าพรหมสี่หน้า เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ท่ารำแบบธรรมชาติหรือท่าแบบประดิษฐ์ขึ้นก็ตาม เป็นเรื่องของผู้ใช้ท่ารำหรือครูที่สอนท่ารำ
จะต้องพิจารณา
และกำหนดท่ารำออกมาให้เหมาะสม และสามารถแสดงออก เป็นสื่อให้เข้าใจร่วมกันระหว่างผู้ชมกับผู้แสดง จึงใคร่ขอคำแนะนำ
ภาษาท่า พอเห็นเป็นแนวทางในการประดิษฐ์ท่ารำดังต่อไปนี้
1.
ยิ้ม ใช้มือซ้ายยกจีบมือที่จีบระดับปาก และหักข้อมือเข้าหาใบหน้า ให้ปลายนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มืออยู่ตรงระดับปาก
2.
หอมหรือดม ใช้มือซ้ายจีบ และหักข้อมือที่จีบเข้าหาให้ปลายนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มืออยู่ระดับจมูก
3.
ฉันหรือตัวเรา ใช้มือซ้ายจีบหันข้อมือที่จีบเข้าหาลำตัวและวางมืออยู่ระดับระหว่างอก
4.
ท่าน เธอ คำว่าท่าน ซึ่งเป็นบุรุษที่ 2 นี้
ใช้แทนตัวผู้ที่มีเกียรติหรือศักดิ์ที่สูงกว่าผู้พูด
ไม่ควรใช้การชี้
ควรใช้ส่วนทั้งหมดของฝ่ามือในลักษณะของการตะแคงมือ ให้ปลายมือไปสู่ผู้ที่กล่าวถึงและคำว่าเธอ
จะใช้ลักษณะของการชี้มือได้
ข้อควรระวัง การใช้กิริยาชี้มือควรจะเป็นลักษณะของการตะแคงนิ้วชี้ ส่วนลักษณะการใช้นิ้วชี้ชี้ตรงหรือคว่ำมือ
จะบอกถึงอารมณ์โกรธ ไม่พอใจ
5.
ไป จะชี้มือใดก็เริ่มจากการจีบหงาย ยกจีบระดับหน้าอกแล้วม้วนมือออกไปเป็นวงหน้า
หรือวงข้างก็ได้
6.
มา ให้ตั้งมือพอประมาณระดับวงหน้าแล้วกดปลายมือลงจีบคว่ำและตวัดจีบเข้าหาลำตัว
7.
การรับ ใช้มือใดมือหนึ่งก็ได้ตั้งมือระดับวงหน้า
แล้วพลิกช้อนมือหงายขึ้น ถ้ารับสองมือ ก็ตั้งมือทั้งสองให้เหลื่อมกันแล้วพลิกช้อนฝ่ามือ
พร้อมกัน
8.
ปฏิเสธ ให้ตั้งมือขึ้นระดับวงหน้าแล้วสั่นปลายมือพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อย
9.
เสียใจ ร้องไห้ ให้ยกมือซ้ายแตะหน้าผาก
มือขวากุมที่ชายพกหรือหัวเข็มขัดและสะดุ้งตัวขึ้นลงพร้อมด้วย แสดงว่า กำลังสะอื้น
10.
โกรธ ใช้ฝ่ามือข้างใดข้างหนึ่งถูที่ก้านคอ ตอนใต้ใบหูไปมาพร้อมทั้งกระทืบเท้าลงอย่างแรง
11.
รัก ใช้ลักษณะของการประสานมือให้ปลายนิ้วทั้งสองมือทาบแตะที่ฐานไหล่ กิริยานี้มีความหมายถึงการห่มผ้าก็ได้
12.
เป็นทุกข์ ห่วงใย คอย ใช้ประสานลำแขนระดับท้องปลายมือทั้งสองแตะใกล้กระดูกเชิงกราน
13.
อาย ใช้ฝ่ามือหงายแตะที่ข้างแก้ม เอียงและก้มหน้าเล็กน้อยข้างเดียวกับมือที่แตะแก้ม
14.
เก้อเขิน ถูฝ่ามือทั้งสองแล้วทิ้งแขนลงล่างแกว่งตัวและช่วงแขนไปมา
15.
ร่าเริง เบิกบาน เริ่มใช้ท่าด้วยการจีบมือทั้งสอง
หักข้อมือเข้าหาลำตัวระดับอก แล้วม้วนมือออกตั้งวงกลางและกระแทกท้องแขนให้เหยียดตึงระดับไหล่ทั้งสองข้าง
16.
ดีใจ ปรบมือทั้งสองเข้าหากันระดับอก
17.
กลัว มือทั้งสองประสานกันระดับอก ถ้าสั่นมือที่ประสานกัน แสดงว่ากลัวมาก
18.
ความรุ่งเรือง สว่างไสว เปิดเผย เริ่มท่าด้วยการจีบคว่ำระดับหน้าท้อง
จีบคว่ำให้มือทั้งสองเรียงระดับเดียงกันหรือซ้อนมือกันก็ได้ แล้วค่อยๆคลายจีบทั้งสอง แยกมือออกไปตั้งวงบัวบาน
19.
แสดงความเป็นใหญ่ ใช้มือใดมือหนึ่งตั้งวงบัวบาน อีกมือหนึ่งตั้งและเหยียดตรงระดับไหล่ที่เรียกว่า ท่านภาพร
หรือจะใช้วงบัวบานทั้งสองมือที่เรียกว่า ท่าพรหมสี่หน้าก็ได้
20.
ความสวย
ความงาม ใช้มือใดมือหนึ่งตั้งวงบัวบานอีกมือหนึ่งตั้งวงหน้าที่เรียกว่า ท่าเฉิดฉิน
|